เงินกู้สามัญ
>>คุณสมบัติสมาชิกที่ขอกู้เงินสามัญ
(1) เป็นสมาชิกสหกรณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน
(2) ไม่มีหนี้สินใด ๆ ค้างอยู่กับสหกรณ์ หรือมีแต่ได้ชำระเงินกู้สามัญรายก่อนมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 6 งวด ( ครึ่งปี )
(3) สหกรณ์สามารถให้เงินกู้สามัญ แก่สมาชิกต่างจังหวัดได้ เพียงเท่าจำนวนไม่เกินร้อยละ 90 ของเงินค่าหุ้นที่สมาชิกมีอยู่ในขณะนั้น และไม่ต้องจัดให้มีผู้ค้ำประกันการกู้เงิน
>>คำขอกู้เงินสามัญ
การขอกู้เงินสามัญของสมาชิก ต้องเสนอผ่านการพิจารณาให้ความเห็น ดังต่อไปนี้
(1) คำขอกู้ของสมาชิกผู้กู้ซึ่งรับราชการ หรือ ลูกจ้างประจำสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายส่วนกลาง ต้องผ่านผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการหรือเทียบเท่า คำขอกู้ของผู้ซึ่งรับราชการ หรือลูกจ้างประจำสังกัดสถานีตำรวจภูธร ต้องผ่านหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรนั้น
(2) คำขอกู้ของผู้ซึ่งรับราชการหรือลูกจ้างประจำ สังกัดหน่วยข้างเคียงในพื้นที่ ต้องผ่านหัวหน้าหน่วยงานนั้น หรือผู้รักษาราชการแทน (ถ้าหากผู้กู้ดำรงตำแหน่งเหล่านี้เอง หรือดำรงตำแหน่งราชการสูงกว่าก็ไม่ต้องผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบ)
(3) คำขอกู้เงินสามัญของสมาชิกที่สังกัดต่างจังหวัด ให้ยื่นมายังสหกรณ์โดยตรง เพื่อให้คณะกรรมการเงินกู้ พิจารณาให้เป็นไปตามระเบียบนี้ต่อไป
>>จำนวนเงินกู้สามัญ
จำนวนเงินกู้สามัญ ที่จะให้แก่สมาชิกผู้ขอกู้คนหนึ่งๆ นั้น ย่อมสุดแล้วแต่คณะกรรมการดำเนินการพิจารณาเห็นสมควร แต่ต้องอยู่ภายในจำกัดไม่เกิน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน) โดยกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้ดังนี้
– สมาชิกที่ขอกู้เงินสามัญ มีสิทธิ์กู้ได้ห้าสิบเท่าของเงินได้รายเดือนบวกทุนเรือนหุ้น แต่จะกู้ได้ไม่เกิน 1,700,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน ) กำหนดส่งชำระหนี้ได้ไม่เกินอายุ 70 ปี หรือมีหนี้คงเหลือเท่ากับทุนเรือนหุ้นเมื่ออายุ 70 ปี
– ข้าราชการบำนาญหรือผู้กู้ที่มีอายุไม่ถึง 65 ปี มีสิทธิกู้เงินสามัญได้ 30 เท่าของเงินบำนาญ รวมกับค่าหุ้น แต่รวมกันไม่เกิน 800,000 บาท กำหนดส่งชำระหนี้ได้ไม่เกินอายุ 70 ปี หรือมีหนี้คงเหลือเท่ากับทุนเรือนหุ้นเมื่ออายุ 70 ปี
– ข้าราชการบำนาญและมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิกู้เงินสามัญได้เพียงเท่าจำนวนทุนเรือนหุ้นที่สมาชิกมีอยู่เท่านั้น กำหนดส่งชำระหนี้ได้ไม่เกินอายุ 70 ปี หรือมีหนี้คงเหลือเท่ากับทุนเรือนหุ้นเมื่ออายุ 70 ปี
– สมาชิกที่เป็นข้าราชการบำนาญและมีอายุตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไป สามารถกู้เงินสามัญได้ร้อยละ 90 ของทุนเรือนหุ้นที่มีอยู่กับสหกรณ์ โดยใช้ทุนเรือนหุ้นของสมาชิกเป็นหลักประกัน และให้ส่งชำระหนี้ไม่เกินอายุ 80 ปี
– กรณีสมาชิกกู้เงินสามัญ โดยมีหุ้นเป็นหลักประกันให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของค่าหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว กำหนดส่งคืนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ( ไม่เกิน 70 ปี )
>>เงื่อนไขอื่น ๆ
– ให้มีผู้ค้ำประกันเงินกู้ 3 คน หากสมาชิกขอกู้เงินเกินกว่า 1,000,001 บาท ขึ้นไป ให้มีผู้ค้ำประกัน 4 คน
– สมาชิกคนหนึ่งจะเป็นผู้ค้ำประกันสำหรับผู้กู้มากกว่าห้าคนในเวลาเดียวกันไม่ได้
– สมาชิกผู้กู้เงินสามัญ จะต้องมีทุนเรือนหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนเงินกู้ หากไม่พอ ให้สหกรณ์หักเอาจากเงินกู้สามัญ
>>หลักเกณฑ์การให้เงินกู้ก่อน – หลัง
(1) เงินกู้ซึ่งถือค่าหุ้นเป็นหลักประกัน พึงให้ในลำดับก่อนเงินกู้ซึ่งมีหลักประกันอย่างอื่น
(2) ในระหว่างเงินกู้ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันตามที่กล่าวในข้อ (1) เงินกู้ซึ่งมีจำนวนน้อย พึงให้ก่อนเงินกู้ซึ่งมีจำนวนมาก เพื่อประโยชน์แห่งการนี้ จำนวนเงินกู้ที่นำมาเทียบกันนั้น ให้คิดรวมทั้งเงินกู้สามัญและเงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินรายก่อน ของผู้กู้ที่คงเหลืออยู่ (ถ้ามี) ด้วย
(3) เว้นแต่ในกรณีที่คณะกรรมการดำเนินการ หรือคณะกรรมการเงินกู้เห็นว่าเหตุผลพิเศษจะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นก็ได้
>>เงินงวดชำระหนี้
– ให้ผู้กู้ส่งคืนเงินกู้สามัญเป็นงวดรายเดือนเท่ากัน พร้อมด้วยดอกเบี้ยในวงเงินกู้ 800,000 บาท ให้ส่งชำระไม่เกิน 120 งวด
– ในวงเงินกู้เกินกว่า 800,001 บาท แต่ไม่เกิน 1,700,000 บาท ให้ส่งชำระได้ ไม่เกิน 50 งวด
>>การผ่อนผันชำระหนี้
ในกรณีที่ผู้กู้มีคำขอเป็นหนังสือ คณะกรรมการดำเนินการเห็นว่ามีเหตุอันสมควร ผ่อนผันเป็นพิเศษ คณะกรรมการดำเนินการจะผ่อนเวลาการส่งเงินงวดชำระหนี้ สำหรับเงินกู้สามัญที่กำหนดไว้ ให้แก่ ผู้กู้คราวละหนึ่งหรือหลายเดือนก็ได้ แต่การผ่อนเวลาเช่นนี้รวมกันทั้งหมดสำหรับเงินกู้สามัญรายหนึ่งๆต้องไม่เกินหกเดือน แต่ผู้กู้ต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้ตามปกติทุกเดือนไป